LIFE

TODAY

เข้าสู่ระบบ

หน้าหล่อ หุ่นแซ่บ แต่ ‘เท้าเน่า’ ยังไงหญิงก็เมิน เชื่อผม!! 

ป๊อป นิติ

อัพเดต {today}, GMT +7
สวัสดีครับก่อนอื่นผมขอเกริ่นนำตัวเองก่อนสำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องราวของผมมาตลอดอาจจะยังไม่ทราบว่าผมเป็นคนนึงที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตมนุษย์เงินเดือนและเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพที่ผมชอบไม่ว่าจะเป็น หนังสือ พอดแคสต์ หรือแม้แต่ คอร์สเรียนสัมมนาต่างๆผมก็ลงมาหลายอย่างแล้วครับ ซึ่งแต่ละอย่างที่ผมตกผลึกความรู้ผมก็จะเอามาเราให้กับทุกคนฟัง แต่สำหรับวันนี้ผมมีเรื่องราวที่ค่อนข้างจะเป็นเรื่องส่วนตัวนิดหน่อยให้ทุกคนได้ นำไปวิเคราะห์สักนิดหนึ่งเพราะมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับสุขภาพเท้ามาให้ทุกคนทราบด้วยนะครับ แล้วผมก็คิดว่ามีหลายคนอยู่เหมือนกันที่กำลังเจอกับปัญหาที่ผมผ่านมาแล้ว เพราะฉะนั้นรับรองว่ามันมีประโยชน์กับหลายคนแน่นอน ว่าแต่เรื่องราวนี้จะเป็นยังไงเรามาดูกันเลยดีกว่า
ย้อนไปเมื่อสมัยเรียนมัธยม “ทุกคนมีแฟนกันหมด” แต่ผมไม่มี

ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมก็ต้องบอกว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็อยากมีแฟนกันทั้งนั้นแล้วเพื่อนของผมหลายคนก็มีแฟนกันเกือบทั้งห้องเลยล่ะครับ ส่วนตัวผมไม่มีแฟนกับเขาหรอกเพราะตัวเราเองก็ไม่กล้าจีบใครเลย ออกจะเป็นเด็กเลียนแบบมนุษย์ซะมากกว่า แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องมีแฟนหรือจะต้องมีผู้หญิงเข้ามาเหมือนเพื่อนนะครับ เพื่อนผมแต่ละคนนั้นก็ต้องบอกเลยว่า สาวๆติดตรึมไม่น้อยเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผู้หญิงในโรงเรียนเดียวกันหรือจะเป็นเพื่อนต่างโรงเรียน ไม่ต้องแปลกใจเลยครับเพราะทั้งกลุ่มเพื่อนกับผมก็หน้าตาดีกันทั้งนั้นแถมยังเล่นกีฬาเอาใจสาวๆไปอีก

ช่วงในกลุ่มผมจะประมาณนี้หมดทุกคนครับ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงฮอต

ช่วงตอนมหาลัย “หน้าผมฮอต” แต่อาจจะคุยไม่เก่ง

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเริ่มอยากมีแฟนกับเขาสักทีล่ะครับเพราะไม่ว่าจะเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมหรือแม้แต่เพื่อนในมหาลัยก็ดูเหมือนจะอยากมีแฟนกันหมด บางคนไม่ต้องลงทุนจีบสาวมากเลย แต่สาวๆก็เข้ามาให้ขายขนมจีบบ่อยๆนะ ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ทำไมเพื่อนมีแฟนกันหมดแต่เราถึงไม่มีล่ะ ทั้งๆที่หน้าตาผมก็หล่อเหลาเอาการไม่แพ้เพื่อนชายในกลุ่มเลยแม้แต่น้อย

ผมเลยเริ่มจีบผู้หญิงคนแรกที่เป็นเพื่อนในคลาสเรียนเดียวกันนี่แหละ เพราะเห็นเธอน่ารักดี คุยเก่งด้วย แต่ส่วนตัวของผมเองไม่ได้เป็นคนคุยเก่งมากมายอะไรนัก แต่ถ้ามีแฟนผมก็คุยและเทคแคร์แน่นอน หลังจากที่ผมขอเบอร์โทรเธอมาและเริ่มทำความรู้จักกันตอนแรกๆมันก็ดีอยู่แหละครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเอาไปเอามาหลังจากที่เธอได้มาที่ห้องผม ผมพาเธอมาที่ห้องก็จริงแต่ผมไม่ได้ทำอะไรเกินเลยแล้วส่วนตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกมีด้วย จากนั้นมันก็เหมือนกับว่าไม่สามารถไปด้วยกันต่อได้

ผมยังไม่ยอมแพ้ครับเพราะคิดว่านี่อาจจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมจีบก็ได้ ในช่วงที่เรียนตั้งแต่ขึ้นปี 2 ถึงปี 4 ในมหาวิทยาลัยผมก็ลองคุยกับสาวๆมาเรื่อยๆนะ แต่ละคนตอนคุยก็โอเคกันหมดแหละครับ แต่พอเธอรู้จักผมมากกว่านั้นเช่นการพาเธอไปที่ห้อง มันก็ทำให้ผมกับสาวๆต้องเลิกคุยกัน ซึ่งผมไม่รู้ว่าทำไมพอมาถึงช่วงที่ผมพาพวกเธอมารู้จักตัวของผมมากขึ้นพวกเธอถึงตีตัวออกห่างและไม่อยากคุยกับผมต่อ ในช่วงจบปี 4 มาผมก็เลยทำงาน ซึ่งช่วงทำงานผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากเท่าไหร่ล่ะครับ

ผมออกกำลังกายทุกแบบครับ ไม่ว่าจะหนักหรือเบา 

เข้าวัยทำงาน เป็นช่วงที่ผมเริ่ม “คิดมาก”

ในช่วงของการทำงานผมสนุกกับการทำงานมากๆและก็เหมือนเคยผมเล่นกีฬาแล้วเข้าฟิตเนสเป็นประจำ ส่วนตัวผมไม่ได้อยากมีกล้ามใหญ่โตอะไรหรอกครับแต่ว่าก็เล่นให้ร่างกายฟิตไปเรื่อยๆแค่นั้นเอง เพราะการเข้าฟิตเนสกับการเล่นกีฬาเป็นอะไรที่ผมขาดไม่ได้จริงๆ แล้วก็เล่นมาตั้งแต่สมัยมัธยมด้วย หรืออาจจะบอกได้ว่าเป็นสิ่งที่ผมเสพติดเลยก็ว่าได้ ช่วงของการเริ่มทำงานนั้นผมไม่ได้คิดมากเรื่องการจีบสาวไม่ติดหรือไม่มีคนคุยนะครับแต่มันก็มีช่วงหลังๆแหละที่รู้สึกว่ามันเหงาๆและอยากลองมีคนคุยด้วยอีกสักครั้ง

ใช่ครับหลังจากที่ผมรู้สึกเหงา มันก็เริ่มอยากมีแฟนนั่นแหละ แล้วผมก็ลองเริ่มหาคนคุยอีก ซึ่งคนที่พบคุยด้วยก็เป็นคนรู้จักจากเพื่อนที่แนะนำเราให้รู้จักกันนี่แหละครับ แน่นอนครับไม่ใช่คนเดียวแน่นอนที่สุดคุยด้วยแต่ว่าสาวที่เข้ามาช่วงนั้นก็มีประมาณ 5-6 คนได้มั้ง ถือว่าเป็นช่วงที่เรารู้สึกฮอตยังไงยังงั้นแหละ แต่มันก็จบลงเหมือนเดิมอ่ะครับตรงที่ว่าพอผมให้พวกเธอรู้จักกับผมมากขึ้นและพามาที่ห้อง แต่ละคนก็เลิกคุยกับผมไปหมด โดยเริ่มจากตีตัวออกห่าง บางคนก็ไม่ตอบแชทบ้าง บางคนก็บล็อกเบอร์ผมไปบ้าง บางคนก็หายไปจากผมเลย

งานนี้เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมเริ่มมาเอกใจแล้วครับว่าทำไมคุยกับสาวๆมาหลายคนแต่พอมาทำความรู้จักกันมากขึ้นกลายเป็นว่าตีตัวออกห่างผมซะงั้น ผมก็เลยปรึกษาเพื่อนดีขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยในกลุ่มของเราตั้งแต่สมัยมหาลัยนี่แหละ มันก็บอกผมแล้วว่ามันคงเป็นที่ผมไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน หรืออาจจะคุยไม่เก่งก็ได้ ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นอย่างนั้นเหมือนกันนะ แต่มันก็มีจุดที่ผมไม่มั่นใจว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่าตรงที่ว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงก่อนพาสาวๆมาที่ห้องน่ะผมก็คุยเก่งและก็ดูเหมือนว่าพวกเธอก็ชอบตัวผมมากเลย แต่ทำไมมันก็จบลงแบบเดิมตลอด???

ปั้นหุ่นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่มหาลัย อันนี้กล้ามขึ้นใหม่ๆ ให้เพื่อนถ่ายมุมเผลอ

จีบสาว “คนล่าสุด” และเธอก็ “ดีที่สุด”

หลังจากที่ผมคุยกับสาวๆมาหลายคนผมก็ไม่ค่อยอยากคุยกับใครล่ะครับเพราะมันรู้สึกว่าคุยไปก็ไม่ใช่แล้วจะคุยไปทำไม จากนั้นผมเลยเข้าฟิตเนสตลอดเลยจนถึงช่วงที่รู้สึกว่าอยากมีกล้ามแบบคนอื่นบ้าง ผมก็เริ่มเล่นเวทหนักขึ้นและเข้าฟิตเนสทุกวันเลยครับ จนคนในฟิตเนสบอกว่าบ้าพลังสุด แล้วหลังจากนั้นประมาณ 5-6 เดือนกล้ามก็ขึ้นมาเป็นมัดมัดลูกๆเลย

แล้วในช่วงที่ผมอยู่ในฟิตเนสตลอดผมก็รู้สึกว่ามีผู้หญิงคนนึงมองผมอยู่ตลอดเลยนะแต่เธอไม่กล้าเข้ามาคุยกับผม บางทีเธอก็มากับเพื่อนสาวหลายๆคน บางทีเธอก็มาคนเดียว แต่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่น่ารักเลยทีเดียว ซึ่งผมก็อยากคุยกับเธอนะ แต่ไม่รู้ว่าถ้าคุยแล้วจะเป็นเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า

มันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากครับที่อยู่ดีๆเธอก็เดินเข้ามาแล้วชวนผมคุยเรื่องออกกำลังกายนี่แหละ ผมก็คุยกับเธอไปนะครับและเธอก็ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการออกกำลังกายหลายๆอย่างเลยนะ ซึ่งต้องบอกตามตรงเลยว่าใจผมละลายมากๆเพราะเวลาที่ผมคุยกับผู้หญิงคนนี้ผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมาก แล้วเธอก็ไม่ประมาทที่จะเป็นตัวของตัวเอง แถมยังมีนิสัยใจคอและมีความชอบเหมือนกันด้วย ฉะนั้นผมเลยไม่รีรอเลยครับผมขอคุยกับเธอต่อเพราะเห็นว่าเธอเองก็ไม่ได้มีแฟน ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้มีแฟน มันเลยเป็นสัญญาณที่ดีและเรื่องที่ดีนะที่เราสองคนจะได้คุยกัน

แล้วคุณรู้ไหมครับว่าหลังจากที่ผมคุยกับเธอได้สักประมาณ 4 เดือน เธอพาผมไปที่ห้องแล้วผมก็พาเธอไปที่ห้องให้รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนและใช้ชีวิตยังไงบ้าง พูดง่ายๆว่าต่างคนต่างทำความรู้จักกันให้ลึกซึ้งมากขึ้นและให้รู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของกันและกันมากกว่าคนคุยนั่นเอง แต่รู้ไหมครับมันทำให้ผมเสียใจมากๆตรงที่ว่าหลังจากที่ผมพาเธอมาที่ห้อง เธอก็เริ่มตีตัวออกห่างผมเหมือนสาวๆคนอื่นเลย มันทำให้ผมหงุดหงิดและรำคาญมาก คือผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำๆตลอดเลย

เธอหุ่นดีมาก และผมก็ชอบที่เธอชอบอะไรแบบเดียวกับผม

ทำไมผมถึงไม่มีแฟนเลย ผมถามคำถามมาตลอด แต่ “ไม่เคยมีคำตอบ”

ผมไม่ได้คุยกับเธอต่อหลังจากที่พาเธอมาที่ห้อง เป็นเวลาเกือบๆ 2 อาทิตย์เลยครับทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเราคุยกันเกือบทุกวันผ่านทางแชทแล้วก็มีหลายครั้งที่ไปทานข้าวด้วยกัน ส่วนผมเองก็ไม่ได้ตามเธออะไรมากมายก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกรำคาญ ถ้าหากผมไม่ใช่สำหรับเธอผมก็เดินออกมา ส่วนตัวเธอก็คงเดินออกไปแค่นั้นแหละ มันก็ทำให้ผมคิดว่าเขาว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ตลอด แล้วผมก็หาคำตอบนี้ไม่ได้สักที

เปิดใจกับเธอ เพราะเธอเปิดใจแบบ “หมดเปลือก” กับผม

ช่วงของการไม่ได้ติดต่อกันเกือบ 1 เดือน เธอส่งข้อความมาหาผมอีกครั้งว่าอยากเจอกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำให้ผม รู้สึกดีใจมากๆเพราะที่จริงแล้วตัวผมเองก็อยากคุยกับเธอต่อแล้วเธอก็เป็นคนที่ค่อนข้างน่ารักเลยอ่ะครับมีเหตุผลอะไรล่ะที่ผมจะไม่คุยกับเธอต่อ วันนั้นเราคุยกันได้นานสักพักเลยแหละที่ร้านอาหารในห้าง เราคุยกันหลายเรื่องแล้วในที่สุดเธอก็วกมาเรื่องที่เธอหายไป เหตุผลที่เธอหายไปนานไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอมีคนอื่นครับ เธอบอกกับผมตามตรงว่าเธอรับไม่ได้ที่เห็นสภาพห้องของผมเต็มไปด้วยกล่องและยาที่ใช้รักษาเชื้อราที่เท้าของผม และพอเธอเห็นสภาพเท้าของผมเธอก็ตกใจและไม่อยากคุยกับผมต่อ มันดูน่ารังเกียจมากๆ

ตอนแรกผมก็อึ้งล่ะครับและยอมรับว่าทำตัวไม่ถูกเลยที่เธอพูดตรงๆกับผมแบบนี้ ก็ผมไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาพูดเรื่องนี้กับผม และมันก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ ก็ผมอยู่กับการติดเชื้อราที่เท้ามาเป็นเวลาหลายปีเลย ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยซ้ำ แต่ผมไม่คิดว่าคนอื่นจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจและเป็นเรื่องที่ไม่สามารถรับได้จนถึงขั้นที่ต้องเลิกคุยกันไปเลย

ผมไม่เคยหายจากการใช้ยาพวกนี้ ซื้อมาได้ยังไงเป็นลังๆ

ผมต้องหาตัวช่วยและวิธีทำให้ “จบปัญหา” ที่เจอมาตลอด

ใช่ครับหลังจากที่ผมไม่คุยกับเธอในวันนั้นมันก็ทำให้ผมเฟลไปอาทิตย์นึงเต็มๆ เพราะทั้งชีวิตมาผมก็เพิ่งรู้ว่าที่ไม่มีแฟนและสาวๆหลายคนไม่กล้าคุยกับผมต่อเนี่ยมันก็เป็นเพราะเท้าของผมนี่เองหรอ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติมาโดยตลอดแต่สำหรับคนอื่นๆมันไม่ได้เป็นเรื่องปกติเลย แล้วมันก็เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจกับคนอื่นๆด้วย ถึงแม้ว่าจะหน้าตาดีขนาดไหนแต่ถ้าสุขภาพเท้าไม่ผ่านนี้มันก็ไม่ได้เหมือนกันเนาะ ผมก็ถึงบางอ้อกว่านั้นล่ะครับ

เพราะผมรู้ว่าปัญหานี้มันทำให้คนที่อยากรู้จักผมไม่อยากเข้าใกล้ ผมสิ่งที่ผมทำนั่นก็คือการหาตัวช่วยที่สามารถช่วยผมได้จริงๆ ให้ผมจบปัญหาเรื่องเชื้อราที่เท้านี้สักที ต้องบอกก่อนนะครับว่ายาที่ผมใช้และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่อยู่ในห้องของผมนั่นน่ะเป็นยาของหมอและเป็นยาที่ผมซื้อมาเองแต่มันไม่หายครับเลยต้องใช้เยอะมากอาชัยมาโดยตลอด หลังจากที่แพทบอกผมในวันนั้นแล้วผมหายหน้าจากเธอไปประมาณอาทิตย์นึงเธอก็แนะนำ Calmerol มาให้ผมซึ่งผมก็ไม่คิดว่ามันจะช่วยอะไรได้มากหรอกเพราะมันไม่ใช่ยาเหมือนยาที่หมอให้มาขนาดยายังไม่ช่วยรักษาอะไรเลยนับประสาอะไรกับครีมแบบนี้จะช่วยผมได้ แต่ผมก็ไม่หักหาญน้ำใจเธอนะครับเพราะหลังจากที่เธอแนะนำและเอาครีมตัวนี้มาให้ผมผมก็ลองใช้ดูตั้งแต่ได้มา ผมหายไปจากทุกคนประมาณ 2 เดือนเพื่อให้ปัญหาทุกอย่างมันจบ
Nội dung cột [Title]
Nội dung cột [Content]
Nội dung cột [Time]
ผมกลับไปคุยกับแพทคนที่ผมอยาก “จริงจัง” ด้วย … อีกครั้ง

ผมต้องขอบคุณแพทมากเลยนะครับที่แนะนำ Calmerol และยัดครีมตัวนี้มาในมือผมในวันนั้นเพราะถ้าไม่มีครีมตัวนี้ผมก็ไม่สามารถหายจากเชื้อราที่เท้าได้เลย แล้วก็คงเป็นปัญหาที่ทำให้ตัวผมเองค้างคาอยู่กับมันมาตลอดและต่อไป อยู่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านไปนั้นผมหายไปจากทุกคนจริงๆครับคนที่จะเห็นหน้าผมและได้ยินเสียงของผมนั้นก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้นแต่สำหรับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นสาวหรือเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาลัยเขาไม่ได้เจอผมเลย จนกระทั่งผมดูแลอาการติดเชื้อราที่เท้าของผมจนหายไปนี่แหละครับเลยทำให้ผมกล้าคุยกับหลายคนได้อีกครั้ง เพราะมันก็มีหลายคนแหละที่พยายามคุยกับผมเหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแต่ที่จริงแล้วในใจพวกเขาก็รังเกียจสิ่งที่ผมเป็นมาตลอด

แต่คนที่ผมอยากจะคุยด้วยมากที่สุดอยากเจอมากที่สุดและอยากขอบคุณมากที่สุดนั่นก็ไม่ใช่ใครครับ เธอคือสาวน้อยที่แนะนำวิธีการดูแลตัวเอง และยัด Calmerol ใส่มือผมมาในวันนั้น ผมไม่รู้ว่าเธอได้มาจากไหน หรือรู้จัก Calmerol ได้ยังไง ผมยังสงสัยอยู่ … หลังเขียนบล็อคนี้ผมจะไปถามเธอดู 5555 มันดูตลกเหมือนกันนะ ที่อยู่ดีๆเธอก็มาเปิดใจคุยกับผมแบบนี้และยังหาวิธีช่วยผมได้อีกด้วย

ผมไม่รีรอที่จะทำความรู้จักกับเธอต่อและเดินหน้าคุยเพื่อขยับความสัมพันธ์ของผมกับเธอไปให้ไกลมากกว่านี้ จนในที่สุดผมอยากให้ทุกคนแสดงความยินดีกับผมครับ เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่ผมกับเธอได้ตกลงกันเป็นแฟนกันครบ 1 ปีพอดี

ขอบคุณที่วันนั้นแพทเดินเข้ามาคุยกับผม

ผมเข้าใจ “ปัญหา” และความทรมานใจของทุกคนที่เคยเป็นเหมือนผม

ปัญหาเชื้อราที่เท้าเป็นเรื่องที่หลายคนไม่กล้าคุยกับใครแล้วมันก็ดูเป็นเรื่องน่าอายมากเลยทีเดียวครับเมื่อรู้ว่าคนที่เรารู้จักรังเกียจเรา แต่ผมก็อยากบอกทุกคนเขาว่าทุกปัญหามีทางออกนะ อย่างกับตัวผมเองผมเจอปัญหานี้มาตั้งแต่สมัยมัธยมและอยู่กับมันจนชินจนคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แถมยังใช้ยาและผลิตภัณฑ์หลายตัวมาก แต่ผมก็หายได้ด้วยครีมที่ชื่อว่า Calmerol ที่แฟนของผมยัดใส่มือผมในวันนั้นล่ะครับ ส่วนยาและผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เคยใช้มา ที่มันเคยตั้งอยู่ในห้องผมอยู่ในลังใหญ่ๆเต็มห้องไปหมดเนี่ยผมทิ้งมันไปหมดแล้วครับ อย่าหวังเลยว่าผมจะซื้อมาและแนะนำต่อให้คนอื่น

แล้วใครที่อยากจบปัญหานี้เหมือนกับผม ผมอยากแนะนำให้คุณได้ทดลองด้วยตัวเองนะครับ และในช่วงนี้มันก็ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนที่อ่านบล็อกของผม โดยเป็นส่วนลดมากถึง 50% แต่ส่วนลดนี้มีถึงวันนี้เท่านั้น และมีจำนวนจำกัด ไปที่อยากจบปัญหาต้องรีบหน่อยนะครับ ผมอยากให้คุณไปเดินทางและได้ใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งเหมือนที่ผมได้รับมา

ภาพก่อนและหลังที่ผมใช้ Calmerol แต่ตรงฝ่าเท้าผมไม่อยากให้ทุกคนดูครับ คิดว่าทุกคนอาจจะรับไม่ได้ 555

อยากให้ระวังการใช้ห้องน้ำจากหลายๆ ที่ด้วยครับ เพราะผมคิดว่าน่าจะติดเชื้อมาจากการใช้ห้องน้ำฟิตเนสนี่แหละ แต่ละที่ดูสวยจริง แต่เราไม่รู้ว่าสะอาดแค่ไหน

ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข หมายเลข  10-1-6400013649

ราคาโปรโมชั่น:

990 บาท/ชิ้น

ราคาปกติ:

1980 บาท/ชิ้น

+ ผลิตภัณฑ์จะถูกจัดส่งไปยัง "ที่อยู่" ของคุณ "ฟรี" โดยอยู่ภายใต้การรับรองมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาด

+ ส่วนลด 10% เมื่อชำระเงินด้วยการโอน

สารสกัดจากธรรมชาติแท้

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

ผ่านการรับรองมาตรฐาน

00
00
00
00

:

:

ส่วนลด 50% จะสิ้นสุดจนใน {today}

โปรโมชั่นจะสิ้นสุดใน

ซื้อ 3 แถม 1

ซื้อ 6 แถม 2

โปรโมชั่นคอมโบ

จำนวนสินค้าคงเหลือ

ชิ้น

99

สั่งซื้อพร้อมรับส่วนลด►

ความเห็น 126

นิยมมากที่สุด

|

ย้อนหลัง

 ล่าสุด

|

MUA NGAY

ส่ง

วันนี้

 ตอบกลับ 0

25

0

เราก็ใช้ Calmerol นะติดเชื้อรามา 2 เดือน ใช้ยามาหลายอย่างก็ไม่หาย จนมาเจอ Calmerol นี่แหละค่ะ เดือนเดียวจบปัญหานี้เลย

Hansanee_970

วันนี้

 ตอบกลับ 0

84

0

เรื่องนี้ดูเป็นเหมือนเรื่องดราม่ามากเลยค่ะ เราเองก็เคยเจอปัญหาแบบนี้นะ มันไม่โอเคเลยที่รู้ว่าคนรอบข้างทางรังเกียจเรา ยินดีด้วยนะคะที่จบปัญหานี้ไปได้

Nidnoy

วันนี้

 ตอบกลับ 0

คนเล่นฟิตเนสต้องระวังเลยครับเรื่องการใช้ห้องน้ำหรือว่า ใช้พื้นที่สาธารณะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าแต่ละคนเอาเชื้ออะไรมาบ้าง ติดมาทีนึงเนี่ยแก้ลำบากเลยนะ

Eak-287

38

0

วันนี้
ดีใจด้วยนะคะที่จบปัญหาเชื้อรานี้ได้ เราเคยติดเชื้อราที่มือกว่าจะหายก็หลายเดือนนะคะ ที่หายมาก็ใช้ Calmerol เหมือนกัน

HappyJin

 ตอบกลับ 0

0

17

วันนี้
ผมใช้ Calmerol ครับ ติดเชื้อราที่เท้าจากการเล่นฟิตเนส เธอคิดว่าคุณป๊อปคงติดจากการเล่นฟิตเนสเหมือนกันนี่แหละเพราะเห็นออกกำลังกายตั้งแต่เด็กๆเลย แถมยังเป็นเชื้อราตั้งแต่สมัยมัธยมเลยด้วย

Max_Za876

 ตอบกลับ 0

0

85

วันนี้
Calmerol ก็เป็นตัวช่วยที่ทำให้เราหายจากการติดเชื้อราเหมือนกันครับ

Beemkrub

 ตอบกลับ 0

0

9

เมื่อวาน
ติดตามคุณป๊อปมานาน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องดราม่าแบบนี้ในชีวิตด้วย แต่ก็ดีใจด้วยนะคะที่หายจากอาการเชื้อราได้ และมีแฟนสวยๆด้วย

On-Ne

 ตอบกลับ 0

0

73

เมื่อวาน
โอ้โหใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อรามาเป็น 10 ปีแบบนี้ แสดงว่าเชื้อตัวนี้ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเพราะมันทำให้ติดซ้ำซ้อนได้ ดีใจด้วยนะคะที่ได้ใช้ Calmerol 

Thai-a-nong

 ตอบกลับ 0

0

74

เมื่อวาน
คุณตอบโชคดีมากเลยครับที่คุณแพทแนะนำ Calmerol ให้แถมยังมีนิสัยเหมือนกันชอบอะไรเหมือนกันโดยเฉพาะเรื่องเข้าฟิตเนสเนี่ย ดีมากเลย

978_Kritz 

 ตอบกลับ 0

0

20

2 วันที่แล้ว
กำลังหาตัวช่วยเรื่องเชื้อราที่เท้าอยู่พอดีเลยค่ะ ขอบคุณมากๆที่แนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาจะลองใช้ดูนะ

037Belly

 ตอบกลับ 0

0

7

2 วันที่แล้ว
เห็นคนอื่นรีวิวเยอะมากเลยค่ะ Calmerol ตัวนี้อ่ะ ไม่รู้ได้ผลจริงๆหรือเปล่า ถ้าคุณป๊อปบอกว่าผ่าน เราก็โอเคเลยนะที่จะลองใช้ดู

Rabbitnana11

 ตอบกลับ 0

0

3

3 วันที่แล้ว
คุณแพทเขาเป็นคนที่คุยตรงดีครับเป็นผมก็ชอบนะที่เธอคุยกับผมตรงๆแบบนี้แล้วยังแนะนำผลิตภัณฑ์ดีๆให้ใช้ด้วยอ่ะ

Wongsawang50

 ตอบกลับ 0

0

5

3 วันที่แล้ว
มีคนแนะนำ Calmerol มาให้ลองใช้ดูเหมือนกันครับแต่ว่าผมยังไม่ได้ซื้อมาเลยไม่รู้ว่ามีขายที่ไหนบ้าง

Jaturong70

 ตอบกลับ 0

0

11

3 วันที่แล้ว

 ตอบกลับ 0

0

17

ส่วนลด 50% นี้ก็ถือว่าเยอะเหมือนกันนะ กำลังหาตัวช่วยกำจัดเชื้อราเลยค่ะ ต้องรีบเลย

Ladawan

4 วันที่แล้ว
คุณป๊อปมาได้ทันเวลาพอดีเลย แฟนเราติดเชื้อราที่เท้าเหมือนกันค่ะ พยายามรักษามาหลายวิธีแล้วแต่แกไม่ได้สักทาง Calmerol คงเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้วล่ะ

Donlayaporn513

 ตอบกลับ 0

0

24

4 วันที่แล้ว
เป็นอะไรที่ดราม่ามาก ดีใจด้วยนะคะที่จบปัญหาเชื้อราได้แถมยังได้สาวสวยมาเป็นแฟนอีก

Sinnie_369

 ตอบกลับ 0

0

18

4 วันที่แล้ว
ผมซื้อ Calmerol มาใช้แล้วเหมือนกันครับ ส่วนตัวผมติดเชื้อราที่นิ้วมือ พาไปได้ 3-4 อาทิตย์ตอนนี้หายแล้วนะ ถ้ามีคนมาขอวิธีผมก็แนะนำตัวนี้แหละ

Dinapong

 ตอบกลับ 0

0

31

4 วันที่แล้ว
อยากลองซื้อให้คุณแฟนใช้จัง

Hongsib-8

 ตอบกลับ 0

0

39

5 วันที่แล้ว
ปัญหาเชื้อราที่เป็นอะไรที่แก้ยากมากเลยค่ะ เราก็อยู่กับปัญหานี้มานานเหมือนกันนะไม่หายสักที ว่าจะลองใช้ Calmerol แบบผมป๊อปค่ะ

Bamka

 ตอบกลับ 0

0

5

ดูเพิ่มเติม

5 วันที่แล้ว

 ตอบกลับ 0

0

4

แนะนำเลยครับ Calmerol ตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่ผมไว้ใจและอยากให้คนที่เล่นฟิตเนสแล้วติดเชื้อราลองใช้ดูนะ เอามันได้ผลจริง

Kitti646