เห็นรูปแรกก็อย่าเพิ่งปิดหน้าจอหนีกันไปก่อนนะคะ เพราะยังมีอีกหลายรูปที่ยังไม่ได้ให้ทุกคนเห็น แต่ณัชชาจะมาเผยตัวตนที่แท้จริงให้กับทุกคนได้รู้จักก็วันนี้นี่แหละ 55555+
หน้าตา กับ หุ่นอวบๆ ตอนย่างเข้าวัย 20 มองย้อนไปได้แต่หัวเราะกับสภาพตัวเองที่ผ่านมา
ใช่ค่ะ ณัชชาไม่ได้เป็นคนที่รูปร่างหน้าตาดีอะไร อย่างที่ทุกคนเห็นพอย่างเข้าวัย 20 กว่าก็ไม่ได้หุ่นดีหุ่นเพียวกับเขาหรอก ออกจะอวบ ๆ ด้วยซ้ำ แล้วสิ่งที่ณัชชาโดนล้อมาตลอดก็เป็นเรื่องของสีผิวนี่แหละ ก็อย่างว่าอะเนอะ คนไทยด้วยกันเองจะไม่ชอบสีผิวสีนี้หรอคะ แล้วสิ่งที่ณัชชายโดนล้อมาตลอดก็คือคำว่า “อีดำ” สำหรับคนพูดเองอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรนะแต่คนฟังและคนที่ถูกว่าเนี่ยมันไม่ได้รู้สึกดีอะไรหรอคะ แล้วมันก็กลายเป็นปมที่ณัชชาถือเอามาตั้งแต่เด็กๆ และคิดว่าตัวเองไม่สวย เพราะสีผิวนี้นี่แหละ
คำถามต่อมาเป็นคำถามเกี่ยวกับอาชีพที่ณัชชาเคยทำมาก่อน หลายคนสงสัยว่า ณัชชาทำงานอะไร?
เพราะเรามีปมเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเอง แล้วส่วนตัวณัชชาเองก็ไม่ได้เป็นคนที่การศึกษาสูงอะไรเหมือนคนอื่นหรอกค่ะ เรียนจบแค่มอหกเท่านั้นเอง นอกนั้นก็ไปต่อสู้ดิ้นรนหากิน ในหัวณัชชาตนย่างเข้าวัย 20 เกือบ 30 ปีเนี่ย สิ่งเดียวที่คิดเลยนะ ก็คือ เวลาเห็นป้าหรือพี่ข้างบ้านที่เขาไปทำงานต่างประเทศแล้วกลับบ้านมามีเงินใช้จ่าย มีเงินสร้างบ้านให้พ่อให้แม่ แล้วยังมีเงินซื้อของสวยๆมาแบ่งให้เราอีก ตอนนั้นหน้าตาก็คิดเลยเขาว่านะ “ฉันต้องไปทำงานต่างประเทศ” เหมือนที่ป้าๆและพี่ๆเขาทำ แล้วด้วยการที่การศึกษารูปร่างหน้าตาของเราไม่ใช่สเปคของเอเชีย และไม่ใช่คนที่มีการศึกษาสูง งานที่ทำมันก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็เป็นเด็กนั่งดริ้ง ในร้านเหล้า กับพนักงานนวดตามร้านนวดประเทศแรกที่ณัชชาไป ก็คือสิงคโปร์นี้แหละ ก็คิดว่ามันเป็นประเทศที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุดแล้ว พอไปตั้งหลักปักฐานที่นั่นได้เดี๋ยวเราค่อยว่ากันใหม่ว่าจะเอายังไงต่อ
พอไปถึงสิงคโปร์งานแรกที่ทำก็เป็นงานอย่างที่ว่าเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนั่งดริ้งมากกว่า เพราะงานนี้เราได้เงินดีกว่า ใช้แรงน้อยกว่า แต่ก็อย่างว่าอ่ะนะคะมันปฏิเสธลูกค้าไม่ได้ ถ้ามีลูกค้าเข้ามาก็ต้องรับ งานจะเป็นยังไงก็ต้องทำ ช่วงแรกทุกสิ่งทุกอย่างมันดูตื่นตาตื่นใจไปหมดแล้วค่ะเพราะเราเองก็เพิ่งย้ายเข้าประเทศเขาไปใหม่ๆ แต่มันก็ยังไม่ลงตัวเพราะเราก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อให้ได้ลูกค้ามา แล้วทำยังไงให้ลูกค้าติดเราบ้าง
บางคนอาจจะบอกว่ามันเป็นงานที่สบาย ได้เงินดีไม่ต้องคิดอะไรมากไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาอะไรเราก็ได้เงินแบบไม่ต้องไปปวดหัวเหมือนอาชีพอื่น แต่ก็ต้องบอกก่อนนะคะว่าสิ่งที่เราต้องแลกมันก็แลกไปไม่น้อย แล้วมีความเสี่ยงอื่นๆตามมาอีกเยอะแยะเลย ในช่วงนั้นณัชชาก็ทำงานไปเรื่อยๆล่ะคะ ช่วงเริ่มงานแล้วก็อายุตั้ง 29 ปีแล้ว ในร้านมันก็มีเด็กใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็แรงกว่าเราเยอะเลย จะให้เราไปสู้รบปรบมือแจ้งลูกค้ากับเด็กๆมันก็ยากไปเรื่อยๆ
พอทำไปเรื่อยๆไม่ถึง 3 ปีเราก็รู้เองล่ะคะว่าเราจะต้องทำยังไง แล้วมีวิธีไหนบ้างให้ลูกค้าติดใจและกลับมาหาเราเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ณัชชาคิดมากกว่านั้นก็คือเราต้องหาคนเลี้ยงเราให้ได้ แล้วมันก็เป็นความฝันของผู้หญิงหลายคนในร้านที่อยากมีผู้ชายดีๆสักคนหนึ่งมารับเลี้ยงดูเรา โดยเฉพาะหนุ่มๆหรือเสี่ยกระเป๋าหนักทั้งหลายนี่แหละคือเป้าหมายของพวกเราโดยเฉพาะ คือพวกเราไม่ได้อยากจะมีแค่เงิน แต่เราก็อยากมีความรักที่ดี และก็เป็นความฝันของผู้หญิงหลายคนแหละที่อยากแต่งงานกับผู้ชายดีๆสักคนหนึ่งเท่านั้นเอง
แล้วงานนั่งดริ้งและพนักงานนวดที่ว่ามานี่ล่ะค่ะเป็นงานที่ณัชชาทำตั้งแต่อายุ 29 ปีมาจนถึงวัย 30 กว่า ซึ่งเป็นระยะเวลาเกือบทั้งหมด 7 ปีเลยทีเดียวที่น้าช้าไปทำงานอยู่ต่างประเทศ แล้วสิงคโปร์ก็ไม่ใช่แค่ประเทศเดียวที่น้าช้าไปหรอกนะคะ ยังมีอีกหนึ่งประเทศยอดฮิตของสาวๆนั่งดริ้งอย่างเรา นั่นก็คือฮ่องกงนั่นเอง แต่ฮ่องกงมันจะมีความยากกว่านิดนึงเวลาไปทำงานที่นั่น แต่เงินมันก็จะดีกว่าแหละค่ะ
ระหว่างที่ณัชชาทำงานก็มีผู้ชายเข้ามาหาเรื่อยๆนะคะ ซึ่งแต่ละคนก็หวังผลประโยชน์กับเราด้วยเหมือนกัน มีทั้งคนติดต่อเข้ามาจากที่ร้าน แล้วก็ติดต่อเรามาจากโปรแกรมแชทที่เราสมัครไปด้วย อะไรที่ทำให้เราได้เงินเราก็ทำทั้งหมดนั่นแหละค่ะไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ทำได้ขอแค่ให้ได้เงินเท่านั้นแหละ
มันคงไม่มีใครกล้าเอารูปอดีตมาวิจารณ์ตัวเองเท่ากับดิชั้นอีกแล้ววววววววววววว
ณัชชาตั้งตัวได้จากอะไร หรือมีผู้ชายเลี้ยง?
พอทำงานได้ครบ 7 ปีและช้าก็ตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ ด้วยบ้านเกิดของเราอยู่ไม่ไกลกับกรุงเทพฯเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้วก็เลยตั้งหลักปักฐานอยู่ที่กรุงเทพฯก่อน ถ้าจะเดินทางกลับบ้านก็ไม่ต้องลำบากวุ่นวายอะไร ที่พักที่น่าอยู่ในช่วงนั้นก็เป็นแถวๆลาดพร้าวแหละค่ะ ที่พักเดินทางสะดวก มีของกินกินง่าย และที่สำคัญก็คือค่าเช่าห้องพักมีหลายราคาให้เลือกโดยเฉพาะราคาถูกๆสำหรับเรา
ต้องบอกเลยล่ะเขาว่าหลังจากที่กลับจากสิงคโปร์และฮ่องกงมา เราเองก็ไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร ช่วงนั้นก็คุยกันอยู่เหมือนกันนะคะเพราะอายุก็ปาไป 38 แล้ว จะให้ไปทำงานเหมือนคนอื่น หรือเริ่มต้นใหม่มันก็เป็นเรื่องยากมากๆ คงไม่มีที่ไหนรับคนอายุเข้าใกล้วัย 40 ทำงานง่ายๆ และตัวเราเองก็ไม่มีประสบการณ์การทำงานหรือพื้นฐานการทำงานมาก่อน โดยเฉพาะในประเทศไทยเนี่ย ยอมรับเลยคะว่าช่วงนั้นจิตตกไปสักพักหนึ่งหลังจากที่กลับมาค่ะ
แต่นะถ้าอยากจะบอกว่าที่ตั้งตัวได้เนี่ยมันเป็นเหมือนโชคช่วยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นเงินก้อนที่เราได้รับมาแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่คิดว่าเราเองจะได้รับ ขออนุญาตเราย้อนกลับไปสักนิดนึงนะคะ ในช่วงที่ณัชชากลับมาถึงไทยได้สักพักหนึ่งแล้วชาก็เริ่มนัดเจอเพื่อนที่อยู่ในไทยแล้วเราก็ไปเที่ยวกันบ้างแหละค่ะ ก็เผื่อจะเจอผู้ชายดีๆสักคนตอนเที่ยว
วันนั้นณัชชาจำได้เลยค่ะว่าเป็นวันที่เพื่อนสาวสมัยอายุ 20 กว่าของเรานี่แหละพาไปแถวห้วยขวางหลังจากไปเที่ยวกันได้สักพักนึงเราก็ตัดสินใจกันว่าจะเดินเล่นและหาซื้อของแถวๆนั้น ตอนนั้นคนเยอะมากเลยค่ะ แล้วห้วยขวางก็ขึ้นชื่อเรื่องของการขอพร ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากพระพิฆเนศ ณัชชากับเพื่อนก็เข้าไปไหว้พระพิฆเนศและทำบุญในนั้นสักแป๊บนึง ก็ถือว่าเป็นการไปเที่ยวนะคะไม่ได้คิดอะไรมาก พอไหว้พระพิฆเนศเสร็จเราก็เดินออกมากัน
ช่วงศาลพระพิฆเนศเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว คนเยอะจริงค่ะ ของแรงและของศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ศาล แต่อยู่นอกศาลต่างหาก
อันนี้ก็เป็นภาพที่ณัชชาเก็บเอาไว้ตอนไปเที่ยวกับเพื่อนค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศหลายปีที่แล้ว ยังคิดถึงอยู่เลย แต่ตอนนี้คงเป็นเรื่องยากแล้วแหละที่จะไปเดินเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน เอาล่่ะค่ะ กลับมาที่คำถามกันก่อน หลังจากที่เดินไหว้พระพิฆเนศเราก็เดินออกมาทาง MRT เพื่อที่จะได้แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน แต่สายตาของเราก็ไปสะดุดกับคุณป้าคนนึงที่รับดูดวง วันนั้นเป็นวันที่คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อยด้วยแหละ แต่นะถ้าอยากดูดวงมากๆ หรือเข้าไปหาคุณป้าแล้วให้เขาดูให้เลย
คุณป้าลักษณ์ หมอดูที่คนดูเยอะมากที่สุด และต่อแถวยาวมากที่สุดในห้วยขวาง
ไม่น่าเชื่อค่ะคุณป้าเขาเหมือนเห็นสภาพชีวิตของเราตั้งแต่เด็กจนโต แล้วยังดูนิสัยเราออกทุกอย่าง แม่นเป๊ะมากๆ ของเราเยอะในระหว่างที่คุณป้าเขาดูดวงให้เรานะคะเพราะหลายอย่างเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆเลย แล้วบางอย่างพอบอกให้สาธารณะรู้ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่จะเข้าใจเราจริงๆ แต่รวมประเด็นแล้วคุณป้าเขาบอกว่าการเงินของเราที่เราอยากได้อยากมีมาตลอดกำลังจะได้เป็นลาภก้อนเร็วๆนี้ ส่วนเรื่องความรักก็ไม่ต้องห่วงเพราะคู่แท้ของเรากำลังเดินทางมาถึง เพิ่งจะเป็นช่วงที่ดวงสมพงษ์ของทั้งเรากับเขากำลังได้มาเจอกัน แต่มีหนึ่งสิ่งที่เราจะต้องทำนั่นก็คือหาสัญลักษณ์ของเทพไท้ส่วย เพราะปีนั้นเป็นปีชงของเรา ให้ท่านปกป้องรักษา แล้วการเงินกับเรื่องความรักจะเกิดขึ้นทันตาเห็น ไม่เกิน 7 วัน
คิวยาวเหยียดมากค่ะ ถ้ามองย้อนกลับไปต้องบอกว่าที่คิวยาวขนาดนี้เพราะคุณป้าลักษณ์เค้าดูแม่นจริง
พอหลังจากที่เราดูดวงเสร็จปุ๊บ หันไปดูข้างหลังตัวเองอีกที ปรากฏว่าคุณรอเข้าแถวเต็มเลยค่ะ ตกใจมากๆว่าคนมาจากไหนทำไมถึงเยอะขนาดนั้น เพื่อนก็บอกว่าป้าคนนี้เขาดูแม่นมากและเป็นหมอดูคนเดียวที่คิวยาวมากที่สุดที่ห้วยขวางแล้วแหละ ตอนที่ณัชชากลับห้องตัวเองไปที่นี้เราก็ไม่รู้เลยค่ะว่าจะไปหาสัญลักษณ์ของเทพไท้ส่วยได้จากที่ไหน แถวๆห้วยขวางก็ไม่มีอะไรแบบนี้เลยค่ะ จะมีแต่ก็เป็นพวกเครื่องรางของขลังของชาวฮินดู แต่เทพไท้ส่วยที่คุณป้าเขาพูดถึงไม่มีให้เราได้เห็นเลย ณัชชาก็เลยกลับห้องและหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูจนมาเจอเว็บไซต์ของหมอดูคนนึงและมีลิงก์ให้เรากดเข้าไปเพื่อรับเหรียญศักดิ์สิทธิ์ ณัชชาก็ไม่รอค่ะเราก็เลยกรอกข้อมูลไปพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ แล้วไม่เกิน 2 วันเหรียญก็ส่งมาถึงเรา อยากจะบอกว่าเป็นการส่งที่รวดเร็วมาก
หลังจากที่ณัชชาได้เหรียญมารวมกับวันที่ไปดูดวง ก็ครบ 6 วันพอดีค่ะ แต่มีวันหนึ่งที่เราประหลาดใจมากๆนั่นก็คือเมื่อครบ 6 วันแล้วเพื่อนสาวคนเดียวกันที่พาเราไปเที่ยวห้วยขวางในวันนั้นโทรมาหาเราแล้วบอกว่าแฟนเขาต้องการซื้อที่ดินแถวโคราช เราก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงได้บ้างแต่มีคนรู้จักและเราเองก็เป็นคนที่นั่นเลยช่วยติดต่อประสานงานให้
รู้ไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น? แฟนเพื่อนตัดสินใจซื้อที่ดินที่เราแนะนำให้ทันทีเลยค่ะ แค่เขาเห็นโฉนดที่ดินกับราคาที่ดินก็ตัดสินใจซื้อเลยทันทีไม่มีลีลาอะไรเลย แล้วสิ่งที่ณัฐชาได้เป็นการตอบแทนมันก็คือค่าคอมมิชชั่นจากการเป็นนายหน้าให้กับเจ้าของที่ดินที่บ้าน แล้วข้อคอมที่เราได้มันก็ไม่ใช่น้อยๆ มันเท่ากับเงินที่เราทำงานต่างประเทศเป็นปีเลย
วันที่เอาเช็คไปขึ้น ลาภก้อนโต ที่เข้ามาจริงภายใน 7 วัน
ใช่ค่ะวันนั้นที่แฟนเพื่อนตัดสินใจเป็นวันที่ครบ 7 วัน พอเขาเห็นโฉนดที่ดินปุ๊บเขาก็เดินทางไปโคราชและดูที่กับเจ้าของทันทีและตัดสินใจในวันนั้นเลย ตอนแรกเราก็คิดว่าเขาคงจะใช้เวลาคิดนาน แต่ไม่ใช่เลย ค่ะ เห็นปุ๊บก็ตัดสินใจซื้อปั๊บเลย
คำถามที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุดและเป็นคำถามที่ส่งเข้ามามากที่สุด ณัชชาเจอกับแฟนคนนี้ได้ยังไง?
ณัชชาไม่รู้ว่ามันเป็นโชคชะตาอะไรกำหนดนะคะเพราะในวันที่เพื่อนโทรมาบอกเราว่าแฟนของเขาตัดสินใจซื้อที่ดินที่เราเป็นนายหน้าให้แล้ว แฟนคนปัจจุบันของเรานี่แหละก็ทักเราเข้ามาในแอพหาคู่ที่เราเล่นมาตลอดและเคยโดนหลอกมาตลอด
หลังจากที่เราได้รับข้อความจากเขาในวันนั้นก็เริ่มคุยกันมาเรื่อยๆแหละค่ะ แล้วเราก็ไม่คิดว่าเขาจะจริงจังอะไรกับเราก็น่าจะเหมือนผู้ชายทั่วไปที่เข้ามาและเดินจากชีวิตเราไปนั่นแหละ เราเองก็ไม่ได้สวยอะไรที่จะทำให้เขาอยู่ได้นานขนาดนั้นแล้วก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายที่จะไปช่วยเขาทำมาหากินสักเท่าไหร่ แต่น้องชายคิดผิดมากเลยค่ะเพราะหลังจากที่เราคุยกันครบ 3 เดือนปุ๊บเขาก็ขอเจอนาชาด้วยเขาจะบินจากสวิสมาหาเราที่ไทย
เราก็ออกไปเอานะคะ เพราะอายุปูนนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมารับเลี้ยงเราหรือเปล่า แต่ในใจก็แอบหวังลึกๆแล้วว่าถ้าหากคนนี้เป็นคู่แท้ของเราจริงๆก็ขอให้แต่งงานกันเลยไม่ต้องมีอุปสรรคอะไรมาขวางกั้นเราอีกต่อไปแล้วเพราะตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 30 กว่าปีเราไม่เคยสมหวังเรื่องความรักและไม่เคยสมหวังเรื่องการเงินมาก่อน แต่เรื่องการเงินที่จะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากเพื่อนมานี้เป็นครั้งแรกที่ณัชชายได้สมหวังกับเรื่องการเงิน ส่วนเรื่องความรักเราก็ต้องดูกันต่อไป
ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้สึกเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดและพิเศษที่สุดในโลกใบนี้ / วันที่ไปเดทกัน
พอเขาเดินทางมาถึงที่ไทย เราก็ต้อนรับเขาตามปกติและเผยให้เขารู้ทุกอย่างชีวิตของเราว่าเราเคยผ่านอะไรมาบ้างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานเรื่องการทำศัลยกรรมและอื่นๆอีกมากมายที่เราไม่เคยบอกให้ใครรู้และเราคิดว่ามันเป็นปมด้อยของเราเองจะรู้ไหมคะว่าเขาบอกกับราชาว่าอันที่จริงแล้วเขารู้จักเรามาตั้งนานแล้วแล้วเขาก็เคยเป็นลูกค้าเราตอนที่เราอยู่สิงคโปร์ แล้วหาไอจีเราจนเจอและติดตามเรามาตลอดแต่เขาก็ไม่ได้กดไลค์อะไรเราแค่ติดตามเรามาเรื่อย ๆ เพราะตอนนั้นเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่หลังจากไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาเลิกกับแฟนไปและไม่อยากคบกับผู้หญิงคนไหนอีกเลยจนกระทั่งเขาเลื่อนไอจีมาเจอเราอีกครั้งหนึ่งและคิดถึงวันที่เรากับเขาเจอกันที่สิงคโปร์เขาก็เลยหาช่องทางในการติดต่อเราและไม่คิดว่าจะเจอเราในแอปหาคู่เลยทักเราไป และอยากทำความรู้จักกับเราอย่างจริงจัง โอ้โหทีนี้เราอึ้งเลยค่ะ มันจะมีผู้ชายสักกี่คนที่ติดตามเรามานานขนาดนี้
ตอนแรกเขาก็ขอคบกับเราทันทีที่บินมาถึงที่ไทยเลยค่ะ เราก็ไม่อยากเร่งรัดอะไรเขามาก แต่ในใจเนี่ยมันๆบอกไม่ถูก อยากจะแต่งงานวันนั้นเลยทันที แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อน 555555555
หลังจากนั้นเราก็คุยกับเขามาเรื่อยๆนะคะ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะกลับไปอยู่สวิสแต่ก็ไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่คุยกัน ทุกวันเราจะคุยกันผ่านทางวีดีโอคอลตลอดไหนว่าไม่มีวันไหนที่ไม่เห็นหน้ากันเลยนะคะ จนครบ 9 เดือนที่เราได้คุยกับเขา เขาก็ขอหมั้นกับเราเลย
หลังขอหมั่นผ่านแชทครบ 6 เดือนก็พาเราไปสวิสและตาหนวดก็สวมแหวนให้เรา
ดิฉันไม่ลังเลอะไรทั้งนั้นรีบตอบตกลงไปทันทีและแสดงท่าทีว่าดีใจสุดๆไปเลยคือตอนนั้นอยากจะบอกว่ากรี๊ดออกมาดังๆได้ก็จะกรี๊ดเลยนะคะ จนถึงตอนนี้ราชากับเขาคบกันมาได้ 5 ปีแล้วรวมตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกันเกือบ 6 ปีแล้วล่ะค่ะ จนปัจจุบันนี้เราแต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยและกำลังวางแผนที่จะมีลูกด้วยกันค่ะ
รูปวันแต่งงานของเรา 2 คน ที่สวิสเซอร์แลนด์ ตอนนี้ครบรอบ 5 ปีแล้ว ดูกี่ครั้งก็ประทับใจทุกครั้ง ^^
ณัชชาไม่รู้หรอกนะคะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในชีวิตของณัชชาทำไมถึงไม่มีเรื่องสมหวังเลยแม้แต่น้อย แต่หลังจากที่ณัชชาได้รับเหรียญศักดิ์สิทธิ์ Money Amulet มา มันคือการปลดล็อกพัฒนาการทั้งหมดในชีวิตของณัชชาเลยก็ว่าได้ หลายอย่างมันอาจจะดูเวอร์และไม่น่าเชื่อ ตัวเราเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันค่ะว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือความจริงทั้งหมด มันเป็นเหมือนเรื่องเล่าของผู้หญิงธรรมดาธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเลยในชีวิต ชีวิตก็ไม่ได้สวยหรูอะไรแถมยังเคยทำงานเป็นผู้หญิงในบาร์มาก่อน แล้วอยู่ดีๆก็มีโชคมีลาภแล้วยังได้แจ็คพอตเป็นผู้ชายฐานะดีและดูดีมาเลี้ยงดูเราซะงั้น
ณัชชาเลยกลับไปหาหมอดูคนนั้นที่ได้ดูดวงให้กับณัชชาวันที่ประชารู้สึกแย่เอามากๆ สิ่งที่ป้าลักษณ์บอกกับณัชชาก็คือให้ณัชชาบอกต่อพลังงานดีๆจากเทพไท้ส่วยที่ท่านได้มอบให้กับเรามา ณัชชาเลยอยากบอกต่อและเป็นหนึ่งในคนที่ได้ส่งต่อพลังงานดีๆให้กับผู้คนที่กำลังรอให้ปีนี้กลายเป็นปีแจ็คพอตของตัวเองบ้าง
สิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับณัชชาหลังจากที่ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงที่ไม่มีอะไรจะกินมาก่อนใน ตอนนี้ณัชชามีพร้อมหมดทุกอย่างค่ะไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้เงินทองหรือแม้แต่ผู้ชายดีๆคนนึงที่เราคิดว่าในชีวิตนี้คงหาไม่ได้ แต่ในที่สุดเรากับเขาก็ได้เจอกันและได้เป็นของกันและกัน ณัชชาอยากให้แฟนๆที่ติดตามมีความหวังที่จะใช้ชีวิตต่อไปแม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่แย่ที่สุดของคุณหรือเป็นปีที่คุณกำลังจะตั้งใจทำอะไรสักอย่างหนึ่งก็ขอให้มีความหวังต่อไป บางครั้งชะตาชีวิตมันอาจจะดูเป็นเรื่องน้ำเน่าและเรื่องแย่ แต่เมื่อไหร่ที่เรารู้แล้วว่าชีวิตของเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่และเราควรเลือกสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเข้ามาในชีวิตของเรา เราจะพบเจอกับสิ่งที่ใช่และเหมาะสมกับเราโดยที่เรา “ได้ดีเกินคาด” แน่นอนค่ะ
ขออวดผัวส่งท้าย ใครที่ไม่มีก็ขอให้มี ใครที่อยากได้ก็ขอให้ได้ ใครที่ไม่สมหวังก็ขอให้สมหวังซักทีนะคะ
จากที่เราโหยหามาตลอด เมื่อเวลาของเรามาถึง ... เราก็จะได้ทุกอย่างจริงๆค่ะ ขอบคุณป้าลักษณ์ที่ให้หนูรู้จักพลังงานดีๆ
หลังจากที่ณัชชาได้ทั้งเงินและมีสามีเป็นตัวเป็นตนของตัวเองและชาก็ตามหาคุณป้าลักษณ์ หมอดูสุดแม่นถิ่นห้วยขวางค่ะ เพราะอยากบอกเรื่องราวของณัชชากับป้าเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้วก็อยากขอบคุณป้าเขาด้วยที่ทำให้ณัชชามีความหวังแล้วยังบอกให้ณัชชารับพลังงานศักดิ์สิทธิ์จากเทพไท้ส่วยด้วย ถ้าไม่มีป้าในวันนั้นก็คงไม่มีณัชชาในวันนี้ เพราะเขาเป็นคนที่บอกให้ณัชชาหาสัญลักษณ์ของเทพไท้ส่วยมาสถิตย์อยู่กับตัวเอง
คิวดูดวงป้าลักษณ์ยังยาวเหยียดเหมือนเดิม จะผ่านไปกี่ปีคนรอต่อคิวดูดวงก็แน่นตลอดอ่าค่ะ
แล้วสิ่งที่คุณป้าลักษณฑ์ได้บอกกับณัชชา คือ ให้ณัชชา “เป็นกระบอกเสียงผู้บอกต่อพลังงานศักดิ์สิทธิ์ของเทพไท้ส่วยให้กับคนบนโลกใบนี้ได้รับรู้ แม้ว่าเราจะเป็นแค่คนคนหนึ่งที่เสียงไม่ได้ดังอะไรมาก แต่ขอให้เชื่อเสมอว่าสิ่งดีๆที่เราบอกต่อไปนั้นจะทำให้เราได้รับสิ่งดีๆกลับคืนมาเช่นเดียวกัน” ทุกวันนี้นึกถึงคำพูดของป้าที่ไรก็ยังขนลุกตลอด
ในวันที่ณัชชาได้ไปเจอคุณป้า เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปหลายปีก่อนเพราะคนก็ต่อแถวรอคิวดูดวงกับคุณป้าเขาอย่างเขียดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แล้วณัชชาก็เชื่อว่าคุณป้าเขาได้บอกต่อพลังงานดีๆให้กับใครหลายคนที่ได้มีโอกาสไปดูดวงกับเขาด้วยเหมือนกัน
ณัชชา เอเวอร์บรู๊ค เมีย คริสเตียน เอเวอร์บรู๊ค