70% ของประชากรไทยมีปัญหาเกี่ยวกับปรสิต และ 53% ของพวกเขามีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเมื่ออายุ 40 ปี!
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสัญญาณระยะแรกที่ไม่ค่อยมีความสำคัญมักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ร้ายแรง
ทำไมปัญหาการติดเชื้อปรสิตถึงต้องได้รับความสนใจมากขึ้นในประเทศของเรา?
ในอดีต ผู้คนมักมองข้ามและไม่ใส่ใจกับอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อปรสิต เช่น สิว หนอง แผลที่มือ เท้า ปาก ปวดท้องเล็กน้อย อ่อนเพลีย หรือท้องเสีย ผู้คนมักจะรักษาด้วยตัวเองโดยใช้ยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือคิดว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยที่จะหายไปเอง ในขณะที่ปรสิตเจริญเติบโตอย่างเงียบๆ และทำลายร่างกายอย่างร้ายแรง หากไม่ได้รับการตรวจพบและรักษาอย่างทันท่วงที
ผลกระทบที่ไม่สามารถคาดเดาได้จากการติดเชื้อปรสิต
ภาวะโลหิตจางจากการติดเชื้อหนอนหัวหมุดและหนอนเส้น: หนอนหัวหมุดและหนอนเส้นดูดเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
โรคพยาธิใบไม้ตับ: โรคพยาธิใบไม้ในเลือด (Schistosomiasis) สามารถเคลื่อนที่ไปยังอวัยวะภายในและทำให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่ปอด สมอง และตับ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้
เลือดออกและภาวะหลายอวัยวะล้มเหลว: การติดเชื้อปรสิตสามารถทำให้เกิดเลือดออกภายในอวัยวะและภาวะหลายอวัยวะล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในหลายกรณี การติดเชื้อในสมองถูกวินิจฉัยผิดเป็นเนื้องอกในสมอง
“การอยู่ร่วมกับปรสิตเป็นเวลานานจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ในผู้สูงอายุ การติดเชื้อปรสิตจะทำให้โรคประจำตัวรุนแรงขึ้น ลดความสามารถในการต้านทานโรค และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต”
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปรสิต ซอน ศิริวงศ์
ระดับความรุนแรงของการติดเชื้อปรสิตและผลที่ตามมา:
ระยะที่ 1: ผู้บุกรุกเงียบ
ปรสิตเข้าสู่ร่างกายผ่านหลายช่องทาง เช่น ทางเดินอาหาร (จากอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน) ทางเดินหายใจ (จากอากาศที่มีมลพิษ) หรือทางผิวหนัง (จากการสัมผัสดินและน้ำสกปรก) อาการเริ่มแรกมักจะไม่ชัดเจนและมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคอื่นๆ ทำให้หลายคนไม่ไปพบแพทย์
ระยะที่ 2: โจมตีจากภายใน
ปรสิตเจริญเติบโตภายในร่างกาย ทำลายอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต และลำไส้ อาการเริ่มแสดงชัดเจนมากขึ้น เช่น ปวดท้องรุนแรง ท้องเสียเรื้อรัง ดีซ่าน และน้ำหนักลด
ระยะที่ 3: ผลที่ไม่อาจคาดคิด
ปรสิตสามารถก่อให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งตับ ไตวาย และการอักเสบของสมอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้ร่างกายอ่อนแอและลดความสามารถในการทำงาน
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้