เราสองคนแลกหมายเลขโทรศัพท์กันเอาไว้แล้วฉันก็กลับ ฉันใช้เวลาพูดคุยกับอรอุมา 1.5 ชั่วโมง ในตอนนั้นฉันไม่เคยคิดเลยสักนิดว่า เวลา 1.5 ชั่วโมงดังกล่าวจะเปลี่ยนชีวิตของฉันจากหน้ามือเป็นหลังมือ…
ฉันตรงดิ่งกลับบ้านด้วยความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ฉันเปิดคอมพิวเตอร์ทันทีและรีบสั่งซื้อ Greenherb ที่เว็บไซต์ซึ่งอรอุมาให้ฉันมา หลังจากนั้นสามวัน ฉันก็ได้รับของที่สั่งไป การเดินทางสู่การลดน้ำหนักครั้งใหม่ของฉันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ฉันชั่งน้ำหนัก เครื่องชั่งน้ำหนักบอกว่า ฉันหนัก 88.4 กิโลกรัม นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ทุกเช้าฉันมักจะดื่ม Greenherb หนึ่งถ้วยกับอาหารอื่นด้วยเสมอ
วันต่อมา ฉันก้าวขึ้นไปยืนบนเครื่องชั่งน้ำหนักอีกครั้ง 88.5 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นมา 100 กรัม! ถ้าจะบอกว่าฉันไม่หงุดหงิดในเรื่องที่เกิดขึ้นก็คงเป็นการโกหกแน่ๆ ฉันช็อคมาก
ฉันก็เลยโทรหาอรอุมา
“นุดา เธอใจเย็นก่อนนะ น้ำหนักจะขึ้นในช่วงวันที่ 4-5 เธอก็แค่ดื่มผลิตภัณฑ์นี้ต่อและลืมๆ เครื่องชั่งน้ำหนักไปสัก 5 วันก่อน จากนั้นเธอก็จะเห็นเองแหละถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น’ อรอุมาตอบฉันมาแบบนั้น เสียงของเธอออกจะติดเจ้าเล่ห์อีกแล้ว
ฉันก็เลยดื่มผลิตภัณฑ์นี้ต่อ ฉันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องการกินเป็นพิเศษ ฉันก็แค่ดื่ม Greenherb ในทุกเช้า ฉันอยากจะรู้มากว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนี้ฉันก็ยังคงไม่เชื่ออยู่ดีว่า ฉันจะสามารถลดน้ำหนักลงได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการกินและการใช้ชีวิต
ในวันที่ 6 ฉันก้าวขึ้นไปบนเครื่องชั่งน้ำหนักอีกครั้ง ฉันขาสั่นด้วยความวิตกกังวล ฉันขึ้นไปยืนบนเครื่องชั่งและหลับตาลง ฉันกลัวและไม่กล้ามองลงไปที่เครื่องชั่ง แต่ในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา ฉันก็ลืมตาขึ้น น้ำหนักของฉันอยู่ที่ 83.3 กิโลกรัม
น้ำหนักของฉันลดลงไป 5 กิโลกรัมกับอีก 100 กรัมภายในเวลาเพียงแค่ 5 วันแรกเท่านั้นโดยที่ฉันไม่ได้เปลี่ยนการกินอาหารและออกกำลังกายอะไรเลย
ฉันจะไม่มีวันลืมความสำเร็จก้าวแรกของฉันเลย นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก! หัวใจของฉันเต้นตึกตัก ฉันแทบจะหยุดหายใจเพราะความตื่นเต้น! ฉันทำได้แล้ว!!!!
เมนูอาหารของฉันในสัปดาห์ต่อมาไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเมนูที่ฉันกินเป็นประจำยกเว้นเรื่องเดียวเท่านั้น ทุกวันฉันจะดื่ม เครื่องดื่มสุดโปรดของฉัน ซึ่งก็คือ Greenherb
ฉันพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ชั่งน้ำหนัก แต่ถ้าไม่ชั่งน้ำหนัก ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่า ฉันกำลังลดน้ำหนักลงได้ บางครั้งฉันรู้สึกดีใจไปหมดทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นแขน ท้องและต้นขา ฉันมีพลังงานอย่างเต็มเปี่ยม ฉันไม่เคยมีแรงแบบนี้มานานมากแล้ว ความเหนื่อยล้าที่ฉันเคยมีมาตลอดหายไปจนหมด
ตอนที่ฉันชั่งน้ำหนักในสัปดาห์ต่อมา ฉันแทบจะเป็นลมคาเครื่องชั่งน้ำหนักที่บอกว่าฉันหนัก 74.4 กิโลกรัม นั่นก็หมายความว่า น้ำหนักของฉันหายไปอีก 9 กิโลกรัมในหนึ่งสัปดาห์
ภายในเวลา 12 วัน ฉันลดน้ำหนักไปได้ 13 กิโลกรัมกับอีก 700 กรัม!!!
เหลืออีกสองวันก่อนที่มานัสจะเดินทางกลับ พอนึกถึงปฏิกิริยาที่มานัสจะมีต่อการเปลี่ยนแปลงของฉัน ฉันก็รู้สึกราวกับว่า ฉันมีปีกและสามารถบินได้เหมือนผีเสื้อ ลูกๆ ทั้งสองคนเองก็ตั้งตารอจะได้เจอพ่อและได้รับของขวัญที่มานัสมักจะนำมาฝากจากการไปติดต่อธุรกิจเสมอ
แน่นอนค่ะว่า ฉันรู้สึกและสังเกตว่า เสื้อผ้าของฉันดูหลวมลง แต่ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ค่ะว่า น้ำหนักของฉันจะหายไปถึง 14 กิโลกรัม ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ฉันเองยังแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยค่ะ!
คุณลองจินตนาการดูเอาเองสิคะว่า จู่ๆ คุณก็ผอมลงไปหลายกิโลกรัม ลองจินตนาการดูสิคะว่า คุณจะรู้สึกอย่างไร ลองจินตนาการดูสิคะว่า คุณจะรู้สึกดีขนาดไหนเมื่อคุณเริ่มชอบตัวคุณเอง แล้วคุณก็จะเข้าใจค่ะว่าฉันรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น
วันที่มานัสกลับ ฉันทำอาหารมื้อใหญ่และเตรียมเมนูอาหารพิเศษ ฉันถึงกับอบ Prague ซึ่งเป็นขนมเค้กสุดโปรดของเขาเอาไว้ให้ทั้งที่ฉันไม่ได้ทำเมนูนี้มานานมากแล้ว ตอนนี้ฉันไม่ต้องกลัวกินของหวานอีกต่อไปแล้ว!
มานัสมาถึงตอนที่พวกเรากำลังจัดโต๊ะอาหาร พอได้ยินเสียงประตูเปิด เด็กๆ ก็รีบวิ่งออกมาต้อนรับพ่อของพวกเขาทันที
ประตูถูกผลักเปิด มานัสกำลังยืนอยู่ตรงประตูพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่และกล่องของเล่นสำหรับเด็กๆ เด็กๆ พากันตรงดิ่งไปหาพ่อ มานัสมองข้ามศีรษะของพวกเด็กๆ มาที่ฉันและอ้าปากค้าง กล่องของเล่นหลุดจากมือของเขาตามด้วยช่อดอกไม้
เด็กๆ ต่างพากันกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่เห็นของขวัญ ส่วนมานัสยังคงมองมาที่ฉันอย่างละสายตาไปไหนไม่ได้ก่อนจะก้มลงเก็บช่อดอกไม้ที่ตกขึ้นมา
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เหลือแค่เราสองคนยืนกันอยู่เพียงลำพัง มานัสยังยืนนิ่งพร้อมช่อดอกไม้ในมือราวกับเขาถูกมนต์สะกด ฉันหัวเราะออกมาและหยิบช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือของเขา
“เป็นอะไรไปน่ะ? เข้ามาสิ!”
“คุณ….เกิดอะไรขึ้นกับคุณ…ทำไม???” มานัสล่ะล่ำละลักถาม
“คุณจะจูบฉันไหมหรือคุณจะยืนนิ่งอยู่แบบนั้น?”
จู่ๆ มานัสก็ดึงตัวฉันเข้ามาหาและยกฉันขึ้น เขาเริ่มจูบฉันในขณะที่ฉันยังคงหัวเราะไม่หยุด เขาเต็มไปด้วยความสุข ฉันรู้สึกได้ว่า เขาชื่นชอบในแบบที่ฉันเป็น อยู่ตอนนี้
“พอแล้วค่ะ วางฉันลงพื้นก่อน ไปล้างมือแล้วมาทานข้าวเย็นด้วยกันค่ะ!”
จากนั้นในช่วงค่ำหลังจากที่ส่งลูกๆ เข้านอนหมดแล้ว มานัสก็ตรงเข้าหาฉันราวกับเป็นครั้งแรกของเรา คืนนั้นเราสองคน ทำรักกันอย่างดุเดือด ฉันจำไม่ได้แล้วว่าฉันรู้สึกเป็นที่ต้องการแบบนี้ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากศึกรัก เราสองคนได้หลับกันตอนจะเช้าแล้ว
เช้าวันต่อมา มานัสเสนอว่า เราน่าจะไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวที่ทะเลอีกครั้งสัก 10 วันเพราะธุรกิจที่มานัสไปติดต่อประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนเขาได้รับวันหยุดและเงินโบนัสเป็นรางวัล
ฉันมีความสุขที่สุดในโลก ฉันไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต!
ตอนนั้นฉันทำงานด้านบัญชีให้หลายบริษัทแต่ส่วนใหญ่แล้วฉันมักจะทำงานอยู่ที่บ้าน สัปดาห์นั้นไม่มีอะไรเร่งด่วน ฉันก็เลยสามารถลางานได้หนึ่งอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ ฉันก็เลยตกลงทันทีแบบไม่ต้องลังเลอะไร เด็กๆ ตื่นเต้นกันสุดๆ ที่จะได้ไปเที่ยวทะเล!
ครั้งนี้เราเลือกไปมัลดีฟส์ เราเข้าพักในโรงแรมสี่ดาวที่ห้องใหญ่มีสองห้องนอน ทัวร์ที่เราไปรวมอาหารแบบไม่จำกัดซึ่งเป็นการทดสอบผลิตภัณฑ์ลับที่ฉันมีได้เป็นอย่างดี! ฉันอยากจะรู้จริงๆ เลยว่า มานัสจะทำอะไรเมื่อเราไปถึงที่นั่น
ทุกความสนใจของมานัสพุ่งตรงมาที่ฉัน เยี่ยมมาก นี่ถือเป็นชัยชนะส่วนตัวของฉัน!