เชื้อราที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อน้ำกัดมือและเท้านั้นมีอยู่ทั้งหมด 3 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกันนั่นก็คือ Trichophyton, Epidermophyton และ Microsporum

โดยเชื้อราทั้ง 3 ประเภทนี้เป็นเชื้อที่ชอบสารเคมีตินซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามผิวหนังขนเล็บและเส้นผมของคนเรา โดยบริเวณอวัยวะที่มีสารแคโรทีนนี้กับการใช้น้ำหรือมีความเปียกชื้นอยู่บ่อย ๆ จะทำให้ผิวบริเวณนั้นมีความหนามากขึ้นซึ่งจะเหมาะแก่การสะสมเชื้อราและทำให้เชื้อราประเภทต่าง ๆ สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี

ฉะนั้นการติดเชื้อราจนทำให้เกิดเป็นอาการของน้ำกัดมือและเท้านี้ก็มาจากความชื้นที่เป็นสาเหตุของการสะสมเชื้อราตามบริเวณผิวหนังของเรานั่นเอง

สิ่งที่ต้องระวังจากการติดเชื้อจนทำให้เกิดน้ำกัดมือและเท้านั่นก็คือการปล่อยอาการที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานจนทำให้เป็นแผลเรื้อรังซึ่งจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อลุกลามเข้าไปตามซอกผิวหนังและเข้าไปในเล็บ เมื่อเชื้อราเข้าไปในเล็บจะทำให้รักษาได้ยากขึ้น

โดยอาจจะต้องมีการทานยาร่วมกับการใช้ยาภายนอกเพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามของเชื้อ ซึ่งเป็นการทานยาปฏิชีวนะ และการใช้ยาหลายประเภทเพื่อยับยั้งเชื้อราพร้อม ๆ กับการใช้ยาอื่น ๆ ในการรักษา

แน่นอนว่าการใช้ยาหลายประเภทหรือบางประเภทนั้น มักเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง นอกจากนี้การรักษาการติดเชื้อในระยะลุกลามนี้ ทำให้เป็นผลเสียต่อสุขภาพด้านอื่น ๆ ของร่างกายอีกด้วย เนื่องจากต้องป้องกันการลุกลามของเชื้อและรักษาที่ต้นตอของเชื้อนั่นเอง

ภาวะที่ไม่รุนแรง โดยภาวะนี้จะมีอาการแพ้เชื้อราเบื้องต้น คุณจะเป็นแผลพุพองที่มือและเท้า ซึ่งมีอาการคันหรือมีผิวหนังตกสะเก็ดเนื่องจากขาดความสมดุลของผิวหนัง และจะสามารถกลับมาติดเชื้อได้ซ้ำแม้ว่าจะทำการรักษาให้หายไปแล้วก็

ภาวะที่รุนแรง เป็นภาวะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อได้ลุกลามมากขึ้นนั่นก็คือมีอาการมือบวมเท้าบวม มีอาการเจ็บปวดและร้อน คุณสามารถทำให้เกิดหนองที่บริเวณแผลได้เนื่องจากแผลไม่สามารถระบายน้ำออกไป โดยอาจทำให้มีไข้ร่วมด้วยเช่นกัน